ขุนพันธ์3 หลังจากตัดสินใจวางมือและกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขที่บ้านเกิด ขุนพันธ์ก็มีเหตุให้ต้องออกปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง เมื่อ 2 เสือร้ายอย่างเสือมเหศวรและเสือดำ ก่อคดีอย่างอุกอาจไม่เลือกหน้า ท้าทายกฎหมาย มีอาคมแกร่งกล้า และหมายจะเด็ดหัวของขุนพันธ์ให้จงได้ แต่หลังจากเดินหน้าเข้าสู่ภารกิจนี้ ขุนพันธ์กลับพบว่าความคงกระพันของตัวเองนั้นเริ่มเสื่อมลงเสียแล้ว
ขุนพันธ์3 ภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ก็เดินทางมาถึงภาคที่ 3
จากตำรวจที่เถรตรงในหน้าที่ในภาคแรก ได้ผันตัวเองมาเรียนรู้วิถีของโจรในภาพยนตร์ภาคที่ 2 ทำให้เส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่วนั้นยากที่แยกออกอย่างชัดเจน ผลลัพธ์จากการกระทำดังกล่าวส่งผลมายัง ขุนพันธ์ 3 นักแสดง โดยตรงครับ เมื่อขุนพันธ์ถูกโยนเข้าสู่ภาวะที่เต็มไปด้วยความสับสันอีกครั้ง ในศึกแห่งอาคมและเกมการเมืองอันดำมืดในครั้งนี้
สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผมในภาพยนตร์ 2 ภาคแรกก็คือ ภาพยนตร์มีท่าทีที่จะสำรวจความเป็นมนุษย์ และเลือกสอดแทรกเรื่องราวของอาคมลงไปเป็นส่วนประกอบ แต่เมื่ออาคมเหล่านั้นมันกลับลดทอนความเป็นมนุษย์ของภาพยนตร์ลงไปครับ ทำให้ภาพรวมทั้งหมดนั้นมันออกมาดูยักแย่ยักยันจนคลำเป้าไม่เจอ ในทางกลับกัน แม้ว่า หนัง ขุนพันธ์ 3 เต็มเรื่อง facebook จะยังมาในท่าทางแบบเดิม แต่ภาพยนตร์รู้ตัวดีครับว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ โดยเลือกที่จะโยนเรื่องราวอันเข้มข้นและบริบททางสังคมให้มันเกิดขึ้นในวงนอก หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือให้มันเป็นเพียงฉากหลังที่ส่งผลกับตัวละครเท่านั้น
ขุนพันธ์ 3 ก็แตกต่างจากภาพยนตร์ 2 ภาคก่อนหน้าอย่างสิ้น
เพราะภาพยนตร์นั้นกล้าที่จะก้าวข้ามเส้นแห่งความพอดีครับ เมื่อภาพยนตร์นั้นจริงใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นและกล้าหาญที่จะนำเสนอทุกอย่างออกมาอย่างไม่ประนีประนอม ผลลัพธ์ก็คือมันสามารถทะยานไปไกลกว่าแค่ความเพ้อเจ้อเหนือจริง กลายเป็นความแฟนตาซีที่ดึงผู้ชมเข้าสู่โลกของมันได้มากกว่าภาพยนตร์ 2 ภาคแรกอย่างชัดเจนครับ ทุกอาคมและความบ้าดีเดือดที่ถูกนำเสนอใน ขุนพันธ์ ภาค 3
มันสามารถเปลี่ยนคำถามและคำปรามาสของผู้ชม ให้กลายเป็นเสียงกู่ร้องตะโกนเชียร์สนั่นโรงภาพยนตร์ได้สำเร็จครับ หากทุกท่านคิดว่าจระเข้ยักษ์ที่เห็นในตัวอย่างภาพยนตร์นั้นเยอะเกินพอดีแล้ว ในภาพยนตร์จริงยังมีสิ่งที่ท่านคิดไม่ถึงรออยู่แน่นอน ถึงขนาดที่ว่าภาพยนตร์ยิงมุกเหน็บตัวเองเสียด้วยซ้ำครับว่า การใส่อะไรที่มันเวอร์เกินจริงไปในภาพยนตร์นั้นคือสิ่งที่ผู้ชมชอบ แม้มันจะขัดใจเหล่าบรรดานักวิจารณ์ฝีปากกล้าก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความสนุกจนล้นจอของภาพยนตร์
ขุนพันธ์ 3 มาริโอ้ มันก็ยังมีบาดแผลให้เห็นอยู่บ้างเหมือนกันครับ ปัญหาใหญ่ก็คือภาพยนตร์มีเรื่องที่ต้องการเล่าอยู่เยอะเกินไป ทั้งการสะท้อนปัญหาของสังคม, การเมืองการปกครอง, การปลดแอกของคนชายขอบ, การคอร์รัปชั่นฉ้อฉลของตำรวจ ไล่ยาวไปจนถึงโลกหลังความตาย และบาปกรรมในอดีตที่พร้อมจะมาทวงความยุติธรรมคืนจากตัวละครหลักครับ เส้นเรื่องจำนวนมากนำมาซึ่งตัวละครที่เยอะขึ้นตามไปด้วย
จนทำให้บางช่วงบางตอนของภาพยนตร์ไม่สามารถควบคุมความต่อเนื่องทางอารมณ์ได้ หลายครั้งที่เรื่องราวทั้งหมดมันมะรุมมะตุ้มและจับต้นชนปลายไม่ได้หลายตรรกะและการตัดสินใจของตัวละครนั้นไม่ได้มีเหตุผลที่หนักแน่นมากนัก และภาพยนตร์ก็เลือกที่จะเปิดประเด็นเอาไว้มากมายจนบางตัวละครนั้นไม่ได้รับบทสรุปอย่างแน่ชัดเสียด้วยซ้ำ รับชม ขุนพันธ์ 3 ตัวอย่าง