ก่อนจะดูซีรีเรื่องนี้ตอนที่ผมเข้าใจว่ามันเป็นหนังคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ดังนั้นชื่อ Moving ก็คงจะแปลตามตัวว่ามีการเคลื่อนไหวหรือบินไปมาอย่างรวดเร็วอะไรประมาณนี้ แต่พอดูถึงตอนที่ 13 ปัจจุบัน ก็เข้าใจว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น
Moving ที่แปลว่าเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนที่แน่นอน
สื่อถึงตัวพระเอกเอง บงซก สามารถบินไปมาได้ และยังมีรุ่นคุณพ่อ และเพื่อนๆอีกมากมายที่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นางเอกและคุณพ่อก็มีพลังการรักษาบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว หรือย่นเวลาการรักษาตัวเอง เหมือนเคลื่อนที่จากจุดเวลาตรงนี้ ไปยังเวลาที่แผลหายเจ็บ เป็นการย่นเวลานั่นเอง
ส่วนคุณแม่พระเอกก็สามารถจับการเคลื่อนไหวจากที่ไกลๆได้ มีประสาทสัมผัสไว ดังนั้นใคร Move เข้ามาระยะห่างเท่าใดก็ยังคงได้ยิน คุณครูใหญ่ สามารถติดตามคน เหมือนสุนัขที่มีจมูกดีเยี่ยม ไม่ว่าใครจะ move ไปไหน ไม่มีทางหนีพ้น
Moving ที่แปลว่าเปลี่ยนถ่าย หนังแสดงถึงการเปลี่ยนถ่ายจากรุ่นสู่รุ่น Moving from one generation to another
ในระดับประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงองค์กรจากองค์กรรุ่นเก่า รุ่นพ่อแม่ แล้วก็ล่มสลายไป ไปเป็นองค์กรยุคใหม่เราได้เห็นรุ่นพ่อทำงานเท่ๆ หน่วยแบล้ค ต้องเปลี่ยนผ่านชีวิตไปนั่งเป็นข้าราชการ คอมพิวเตอร์ก็ไม่รู้ ต้องมาเรียนรู้ใหม่หมด Disruption
- เราได้เห็น Transition ของคนโสดที่แต่งงาน มีครอบครัว และก็ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านกับการสูญเสีย หรือการพลัดพรากจากคนรัก
- เราได้เห็นครอบครัวที่ต้องย้าย ถิ่นฐานเรื่อยๆเพื่อความอยู่รอดของลูก
- และสุดท้ายที่เราจะได้เห็นกันใน moving episode 14-20 คือ การเปลี่ยนถ่ายพลังจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ที่ต้องผนึกกำลังกันต่อสู่ไปด้วยกัน
Moving (adj) Moved (adj) ประทับใจ สั่นคลอนอารมณ์
คนดูหนังเรื่องนี้ต้องเตรียมใจที่จะถูกเขย่าอารมณ์ ด้วยการสูญเสียของตัวละคร You will be moved by their stories คนดูต้องประทับใจในชีวิตของตัวละคร ทั้งที่เรารู้ตั้งแต่เปิดเรื่องแล้วนะ ว่าใครต้องเสียชีวิตบ้าง หรือจากไปบ้าง แต่คนทำหนังก็ยังสามารถดำเนินเรื่องเขย่าอารมณ์ ให้เราเจ็บปวดลงไปอีก
- เรารู้อยู่แล้วว่าคุณพ่อสัตว์ประหลาด กับ ภรรยา ไม่ได้มีอาชีพที่น่านับถือเลย คนนึงเป็นอันธพาล แถมหาเงินงานการแกล้งโดนรถชน อีกคนสาวกาแฟและเป็นคู่นอนคนนับร้อยไปด้วย แต่เรากลับซาบซึ้งในความรักที่เค้ามีต่อกัน ในความมีน้ำใจของสาวชงกาแฟ ความเข้าอกเข้าใจที่เค้ามีให้กัน ทำให้น้ำตาเราไหลได้ คุณโดน Moved แล้วครับ
- เมื่อเห็นคุณพ่อที่เสียภรรยาคนรักไป สำหรับเขา ภรรยาคือเข็มทิศเดียวในชีวิต คนดูร้องไห้ครับ เผลอๆร้องหนักกว่าคุณพ่อจางจูวอนด้วย
- เรารู้อยู่แล้วว่าพ่อบงซอกถูกจับไป แต่เราอดจะเจ็บปวดไม่ได้เมือ่เห็นฉากที่แม่บงซอกต้องอุ้มลูกหนีอยู่คนเดียว
พอมาชวนคุยตรงจุดนี้ ก็บอกเลยว่าคนเขียนเรื่องนี่ไม่ธรรมดาเพราะนี่ไม่ใช่แค่หนังซุปเปอร์ฮีโร่ หรือบ้า ฆ่าล้างบาง เอากุญแจมือฉีกปากขาด 
แต่มันเป็นหนังที่สะท้อนชีวิตมนุษย์ หลายสิ่งที่เกิดในสังคม แต่เราไม่อยากรับรู้ หนังเลยเอามาให้เราดู ให้เรารับรู้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ด้อยค่าคนอื่นและสุดท้าย MOVE ไปสู่อนาคตด้วยกัน
