อยากดูเรื่องนี้เพราะจอยกับ Ready or Not (2019) ของผู้กำกับมาก ซึ่งกับ ดูหนัง Abigail (2024) ก็ไม่ผิดหวัง เป็นหนัง horror-thriller ผสมหลากหลายพล็อต หลากหลายมู้ดเข้าด้วยกันค่อนข้างลงตัว คือทั้งสยอง ตื่นเต้น ตลก ดราม่า แม้ว่าโครงเรื่องจะรู้สึกไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่นักก็ตาม แต่รวมๆ บันเทิงเลย
แนะนำว่าไม่ดูตัวอย่างหนังมาก่อนจะดี เพราะตลอดทั้งเรื่องมันเหมือนรถไฟเหาะตีลังกาแห่งความเป็นไปได้ คือพาเราไปเส้นทางใหม่เรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ (เวิร์คบ้าง ไม่เวิร์คบ้่าง ไม่หยุดอยู่กับที่เท่าไหร่)
ดูหนัง Abigail เด็กปีศาจ เรื่องคร่าวๆ กลุ่มอาชญากรแปลกหน้าที่ถูกว่าจ้าง
กลุ่มอาชญากรแปลกหน้าที่ถูกว่าจ้างมาให้ลักพาลูกสาวผู้ทรงอิทธิพลเพื่อเรียกค่าไถ่ งานดูจะราบรื่นไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งพวกเขาพบว่าตัวเองติดอยู่ในคฤหาสน์กับเด็กสาวที่ไม่ใช่เด็กธรรมดา (แบบในภาพนั่นแหละ)
เราว่าไดเรคชั่นฉากระทึกขวัญใน Abigail ไม่ได้ใหม่นัก เป็นลีลาที่คุ้นเคยพอจะจับทางได้ แต่ความสนุกจริงๆ คือการปั้นตัวละครชุดนี้ขึ้นมา ทุกคนไม่ได้มีแค่แบล็คกราวน์ที่น่าสนใจ แต่ยังมีบุคลิก นิสัย พฤติกรรมที่ฟังก์ชั่นกับเรื่อง และปฏิสัมพันธ์กันเองตลอดเวลา ทำให้ช่วงแรกมันมีเสน่ห์มากทั้งที่ยังไม่ได้เล่าอะไรนัก ดู Abigail 123
กลายเป็นดูตัวละครพวกนี้คุยกันแล้วสนุกกว่าฉากสยองขวัญบางช่วงเสียอีก ซึ่งก็แอบเป็นปัญหาของหนังเหมือนกันพอมันถึงจุดที่ต้องขมวดปม คลี่คลายบางคำตอบ หรือจำเป็นต้องพาตัวละครไปสู่เรื่องที่พวกเขาอยากเล่า มันมีความอิรุงตุงนังอยู่ประมาณหนึ่ง ยังดีที่ลูกบ้าบางอย่างเอาตัวรอดให้หนังไปได้เรื่อยๆ เช็ครอบหนัง Abigail
ส่วนตัวชอบท่าที และบรรยากาศองก์สามของหนังมากๆ แต่ก็แอบเสียดายที่มันต้อง wrap up อย่างรวดเร็วด้วยความจำเป็นของหนัง คือรู้สึกว่าพอถึงจุดนี้ มันมีความเป็นไปได้เยอะไปหมดให้กับหนัง แต่หนังเลือกทางที่จะธรรมดาที่สุดให้กับเรื่อง แม้ในกระบวนการเล่ามันก็ยังสนุกนั่นแหละ แต่ก็แอบดายในฐานะที่มันเป็นหนังที่ค่อนข้าง invest กับตัวละคร พล็อต คอนฟลิกต์ ความสัมพันธ์ประมาณหนึ่ง