ความรู้สึกหลังดู Attack on Titan ตอน “คนทรยศ”

12 ก.ค. 2022
465

มาถึงช่วงสุดท้ายไคลแม็กซ์อะไรครับสำหรับ อนิเมชั่นแห่งชาติอย่าง ผ่าพิภพ ไททัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเราก็ดูเรื่องนี้ด้วยหรอดู เหมือนกันครับติดตามมาตั้งแต่สมัยเป็นมังงะแล้วสลับ Attack on Titan ภาพอนิเมะ

หลงรักเลยก็ว่าได้แล้ว บทความนี้เนี่ยจะมาพูดถึงอะไรเราจะพูดถึงตอนล่าสุดของมันกับกับ Final Season pass 2 Episode ที่ 10 ในชื่อตอนที่ว่า คนทรยศ นั่นเอง ก็เป็นอีกหนึ่งตอนที่ผมรู้สึกว่าชอบมากๆเลยแหละ และนี้น่าจะมีการสปอยเนื้อหาเล็กน้อยแล้วก็แน่นอนครับแต่ว่าคุณไม่เคยดูมันก็จะไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอนเป็นอารมณ์คุยกันหลังดูนั่นแหละครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยตามอนิเมะเรื่องนี้ ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันรีบตามมาดูโดยด่วนเลยครับ สำหรับซีรีย์อนิเมชั่นเรื่องนี้ ไม่มีความรู้สึกไหนจะยอดเยี่ยมเท่ากับการได้เฝ้ารอดูจุดจบของเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม

 Attack on Titan ตอน "คนทรยศ"
Attack on Titan ตอน “คนทรยศ”

ตอนคนทรยศ นั้นไม่ได้มีฉากต่อสู้ที่มากมายที่สุดกว่าตอนอื่นๆไ ม่ได้มีการพลิกล็อคหักมุมเฉลยภูมิสุดลึกลับที่น่าตรึงใจเหมือนตอนอื่นครับ กลับกันมันเป็นตอนที่เล่าเรื่องราวของตัวละครรองๆ เป็นพอทลองๆด้วยซ้ำ แต่ทำไมมันถึงยอดเยี่ยมในสายตาของพวกเรา โดยตอนนี้จะโฟกัสไปปที่คณะต่อต้านของ อามิน ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่าง เอลเดีย กับพวกของ หัวหน้าฮันจิ และ ฝั่งมาเลย์ ก็คือพวกของการร่วมไปถึงนายพลด้วย 

เป้าหมายนั่นก็คือการหยุดยั้ง เอเรน การล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ไสยชาติ ข้อนี้แหละจะไม่พูดถึงเรื่องว่าคุณอยู่ฝั่งไหนทีมไหน ขณะต่อต้านหรือว่า เอเลน ก็จะไม่พูดถึงว่าการกระทำของใครนั้นถูกหรือผิด คุณมีคำตอบในใจของตัวเองอยู่แล้วแน่นอน แต่เรื่องนี้เนี่ยมีจุดที่แน่ชัดอย่างหนึ่ง ก็คือการที่พวก อามิน นั้นเลือกที่จะหยุด เอเลน นับว่าเป็นการทรยศพวกเอลเดียอยู่ใกล้ๆจริงอยู่ว่ามันไม่ใช่ชาว เอลเดีย ทุกคนที่เห็นด้วยกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่การกระทำนี้เป็นการกระทำเพื่อเผ่าพันธุ์ของพวกเขาอย่างแน่นอน การต่อต้านก็เท่ากับการขัดขวางผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเอง แถมมีพวก ฟ็อก เห็นด้วยกับแผนการล้างเผ่าพันธุ์อย่างเต็มที่  

Attack on Titan ตอน "คนทรยศ"
Attack on Titan ตอน “คนทรยศ”

แล้วก็พร้อมจะกำจัดคนที่มาขัดขวางเรา และเห็นถึงความขัดแย้งนี้มั้ยแล้วก็แม้แต่พวกเดียวกันเผ่าพันธ์และสังคมเดียวกันก็มีความคิดที่แตกต่างกันได้ และในสภาวะเช่นนี้มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการปะทะกันความขัดแย้งที่นำไปสู่เหตุการณ์ท่าเรือ พวกอามินต้องการเรือเหาะเพื่อจะได้ตามไปอยู่พวกท่านที่กำลังจะถล่มโลกครับ แต่ว่าเรื่องนั้นมันไม่ง่ายเพราะพวกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของ พวกคลั่งเอเลน เราได้เห็น setting ของสถานการณ์นี้แล้วว่ามันเสี่ยงแค่ไห นพวกของ ฟ็อก นั้นก็ไม่ได้โง่ ครับพวกเขาคาดการณ์เวลาว่าอาจจะมีศัตรูที่มองไม่เห็นแล้วก็เตรียมพร้อมเต็มที่ก็แน่ใจว่าจะไม่มีใครตามไปอยู่ในท่าเรือแห่งนี้และเรือบินนั้นเป็นหนทางเดียวที่จะออกจาก เกาะภารดี ได้กลุ่มคนละที่นั้นก็ไม่ลังเลที่จะระเบิดเรือนี้ทิ้งไป 

ที่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติแม้แต่นิดเดียวกับทางเลือกของคณะต่อต้านนั้นก็มีไม่มากนัก ต้องประสานพลังของพวกทหาร ไททัน และก็หน่วยสำรวจอยู่จนแบบฉับไวรวดเร็ว เพราะเขาต้องฆ่าผู้คุ้มกันทุกคนโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวครับนี่คือหนทางหนึ่งที่จะชิงสิ่งที่ต้องการมาได้ซึ่งมันก็ไม่ง่าย ก็เหมือนกับการที่เราพยายามจะเดินสายลวดเส้นเดียวข้ามตึกนั่นแหละ ที่มีปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือฝัง เอลเดีย อย่าง อามิน จะสามารถหาอาวุธเข้าห้ำหั่นกับพวกตัวเองได้จริงๆหรอ  แล้วอีกฝ่ายแม้ตอนนี้จะมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกันแต่ก็เคยเป็นพวกเดียวกันเคยสู้ด้วยกันจะเรียกว่ากินข้าวหม้อเดียวกันมาก็ว่าได้จะให้มาฆ่ากันนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจอย่างมาก

Attack on Titan ตอน "คนทรยศ"
Attack on Titan ตอน “คนทรยศ”

ในจุดนี้ได้ผมก็เลยสงสัยว่าสถานการณ์ที่มันตึงเครียดแล้วก็มีข้อจำกัดขนาดนี้ มันจะมีหนทางอื่นจริงๆหรือเปล่าหรือว่าทำให้เลือกทุกอย่างนั้นมันผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนกับ แอนิเมชันทั่วไปเรื่องอื่นหรือเปล่าตัว Dimension เนี่ยไม่ได้ปล่อยให้เรารอนานแล้ว ฉากถัดไปเราก็ได้เห็น อาร์มินและคอนนี่ที่ขี่ม้าเข้ามาที่ท่าเรืออย่างตรงๆดูถ้าที่แตกตื่นพร้อมกับร้องขอให้ปลดการคุ้มกันเรือและพวกวิศวกรครับเนื่องจากว่ามีเหตุด่วนต้องบอกว่านี่เป็นแผนการที่ห่วยแตกสุดๆครับขนาดนี้ใครเขาจะไปเชื่อ 

ดูสีหน้าตัวละครแต่ละคนที่รับทั้งฝั่งบล็อกและตัวละครของอามินเองรวมถึงข้อนี้ก็ด้วยแต่ละคนนั้นทำสีหน้าเลือกรักกันแบบสุดๆมันเป็นสีหน้าของคนที่มีอะไรบางอย่างปิดบังเอาไว้ครับทั้งคู่นั่นรู้อยู่แล้วว่าแผนการนี้มันห่วยแตกสิ้นดีถ้าในสภาวะปกติเนี่ยพวกเขาไม่เลือกทำแผนนี้ได้แน่ๆเหตุผลง่ายๆของมันเลยก็คือพวกเขาไม่อยากจะฆ่าพวกพ้องตัวเองครับไม่มีอะไรซับซ้อนไปมากกว่านั้นและจุดจบของเหตุการณ์นี้ก็อย่างที่เราได้เห็นมันเกิดการต่อสู้กันระหว่างสองฝ่ายและความหมายของคนทรยศ

ความรู้สึกหลังดู Attack on Titan ตอน "คนทรยศ"
ความรู้สึกหลังดู Attack on Titan ตอน “คนทรยศ”

ในบทสรุป ว่าคนทรยศไม่จำเป็นต้องเป็นตัวร้ายไม่จำเป็นจะต้องเป็นฝ่ายอธรรม ตอนที่ 10 นี้ไม่ได้มีจุดพลิกแพลงอะไรมากมายแต่แฝงไปด้วยความหมายการซ่อนปมรวมถึงการกำกับการวางแผนทุกอย่างมันยอดเยี่ยมจริงๆมันไม่ง่ายเลยในการที่จะทำให้มันน่าสนใจได้เหมือนเรากำลังดูหนังก็อตซิลล่าและต้องม