Babylon บาบิลรอน เรื่องราวของกลุ่มตัวละครทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการภาพยนตร์อย่าง แมนนี่ ทีมงานตัวเล็กๆ ในกองถ่ายที่มีความฝันอยากจะสร้างภาพยนตร์เป็นของตัวเอง, เนลลี่ นักแสดงดาวรุ่งของวงการที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และ แจ็ค นักแสดงรุ่นเก๋ามากประสบการณ์ ทุกตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อวงการภาพยนตร์นั้นกำลังจะเปลี่ยนจากยุคภาพยนตร์เงียบ มาเป็นภาพยนตร์ที่มีเสียงแทน
Babylon บาบิลรอน จะพาผู้ชมเดินทางย้อนเวลาไปในช่วงปี 1920
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ภาพยนตร์เงียบเดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว ขณะที่ภาพยนตร์เสียงเริ่มตั้งไข่และถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก แม้ฟังดูแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากนัก แต่หากย้อนมองไปยังประวัติศาสตร์ภาพยนตร์แล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังครับ นักแสดงเบอร์ใหญ่จากยุคหนังเงียบหลายคนต้องหล่นหายและถูกลืมไปจากวงการ เนื่องจากหนังเสียงเป็นศาสตร์การแสดงที่ยากขึ้นกว่าเดิม นักแสดงบางคนไม่สามารถท่องจำบทพูดได้ หรือบางคนก็ไม่มีเนื้อเสียงที่น่าฟังมากพอ
babylon เรื่องย่อ ในขณะที่ทีมงานเบื้องหลังก็ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ทั้งหมด จากการที่ถ่ายทำภาพยนตร์พร้อมกันได้ทีละหลายสิบเรื่องในสตูดิโอแห่งเดียว เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดด้านเสียงมาเกี่ยวข้อง กลายเป็นต้องถ่ายทำกันอย่างเงียบเชียบที่สุด เพื่อบันทึกเสียงสนทนาของนักแสดง เช่นเดียวกันกับนายทุนที่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ทั้งหมดเมื่อการบันทึกเสียงในภาพยนตร์ถือกำเนิดขึ้น
Babylon มาพร้อมกับการเล่าเรื่องที่หวือหวาแพรวพราวและมีสไตล์
โดยเฉพาะในแง่ของการถ่ายทำที่เน้นความยิ่งใหญ่อลังการของยุคสมัย ทั้งซีเควนซ์ปาร์ตี้อันแสนเมามายในช่วงต้น รวมถึงซีเควนซ์ที่เหล่าตัวละครหน้าใหม่ของวงการ ได้เดินทางเข้าสู่กองถ่ายแห่งโลกมายาเป็นครั้งแรก งานด้านภาพของภาพยนตร์นั้นโดดเด่นด้วยการเลือกใช้ Long Take ในการบันทึกห้วงอารมณ์เหล่านั้น โดยไม่ได้โฟกัสแค่เพียงตัวละครใดตัวละครหนึ่ง
หากแต่เป็นบรรยากาศที่ห้อมล้อมพวกเขาอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละฉากก็เต็มไปด้วยเหล่าตัวละครสมทบที่ถูกจัดวางคิวอย่างแม่นยำ, การวางเฟรมและการเคลื่อนกล้องอย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงการส่งพลังงานอันล้นเหลือผ่านการตัดต่อที่เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชน หากแต่ว่ากันตามตรงแล้วบางช่วงเวลาของความหวือหวานั้นกลับไม่ได้ส่งผลอะไรกับเรื่องราวมากนัก และดูจะเป็นการมุ่งโชว์เทคนิคมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามก็ต้องยอมรับว่า เทคนิคและภาษาภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมก็เป็นสิ่งที่ยึดผู้ชมให้อยู่กับ Babylon ได้จนจบเรื่อง Babylon Anime รีวิว
เรื่อง Babylon อันว่าด้วยการสำรวจจุดสูงสุดในชีวิต
ขณะที่ใจความหลักของภาพยนตร์นั้นคือการถ่ายทอดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ผ่านโครงเรื่องอันว่าด้วยการสำรวจจุดสูงสุดในชีวิต ก่อนที่จะร่วงหล่นลงฟากฟ้าของเหล่าตัวละครหลักทุกคนในเรื่อง แต่บทภาพยนตร์ของ Babylon นั้นกลับเฉไฉออกจากสิ่งที่ตัวเองเป็นมากจนเกินไป โดยเฉพาะกับการโฟกัสที่งานสร้างอันยิ่งใหญ่ และความเลยเถิดของสถานการณ์จนเกินควบคุมในช่วงองก์สุดท้าย Babylon สปอย
ในทางกลับกันสิ่งที่ควรถูกสำรวจอย่างการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง และการยอมรับสถานะในโลกยุคใหม่ของตัวละคร กลับกลายเป็นเส้นเรื่องหลักที่ถูกให้ความสำคัญน้อยเกินไปสักหน่อย หากภาพยนตร์มีการจัดระเบียบของกรอบเวลากว่า 3 ชั่วโมงเสียใหม่ ลดทอนความวูบไหวของงานปาร์ตี้อันแสนเมามายลงบ้าง และหันมาโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างความทุกข์ระทมของเหล่าตัวละคร บทสรุปที่เกิดขึ้นของเรื่องน่าตราตรึงทางความรู้สึกมากกว่าที่เป็นอยู่ครับ
