
Doctor Strange in the Multiverse of Madness (2022) เป็นหนังของ MCU ที่ทำมาได้แหวกแนวที่สุด ด้วยผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในการ ทำภาพยนตร์ แนวสยองขวัญ มาสร้างสรรค์ผลงานให้แปลกใหม่ยิ่งขึ้นแบบที่ทาง marvel ยังไม่เคยทำมาก่อน

1.วานด้า wanda กลายเป็นตัวร้ายเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเหมือนกันนะว่า ดูหนัง Doctor Strange in the Multiverse จะกล้าเปลี่ยนทำให้ตัวละครนี้ ที่เราผูกพันธ์มาตั้งนานนมกลายเป็นตัวร้ายแบบจริงๆจังๆซักทีในซีรีย์เดี่ยวของวานด้า ก็ทำให้เราเห็นความเจ็บปวดของตัวละครนี้แบบจริงๆจังๆ จนระเบิดออกมา และเราเข้าใจตัวละครนี้นะ ถึงแม้สิ่งที่ทำออกมามันผิดก็ตามและสิ่งที่เล่ามานำมาสานต่อในหนังเรื่องนี้ ที่ทำตัวละครนี้เป็นตัวร้าย แล้วหนังแม่งออกมาเวิร์คว่ะ แทบจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในหนังเลยมั้ง(สรุปหนังใครวะ55)

2.คอนเซ็ปต์ มัลติเวิร์ส แม่งเป็นอะไรที่เล่ายากมากเลยนะสำหรับหนังคนแสดง เพราะแม่งเป็นอะไรที่เหนือชั้นไปอีก แต่สำหรับสายคอมมิคหรือคนที่ศึกษามา น่าจะเข้าไม่ยากและตัวหนังทำส่วนนี้ออกมาดีเข้าใจง่ายมากๆว่ามันเป็นงี้ๆนะ พิศวง ลึกลับ และมีความแปลกใหม่มากๆ

3.ความ’Sam Raimi‘ หนังกำกับโดยผู้กำกับ’Sam Raimi’ ซึ่งสำหรับคอหนัง ชื่อขอแกแม่งดังมากๆ เพราะสไตล์หนังแกแต่ละเรื่องแม่งมีลายเซ็นที่ชัดเจนมากๆ กลับหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน ลายเซ็นของแกก็ชัดชิพหาย ทั้งฉากประกอบ สีในหนังดนตรีประกอบ มุมกล้อง และฉากโหด

4.รีวิว ความสยองขวัญต่อยอดจากข้อที่แล้ว นี่น่าจะเป็น ภาพยนตร์ MCU เรื่องแรกๆเลยนะที่มีฉากสยองขวัญแบบจริงๆจังๆให้เห็น หลังจากที่ภาคแรกแค่เกริ่นๆไว้แต่ไม่มีแบบจริงๆจังๆ และความโหดในหนังเรื่องนี้ คือแม่งเอาที่จะทำได้ในเรท PG-13 เลยนะ คือโปรดิวเซอร์กำหนดให้แค่นี้ พี่แกก็เล่นซะเต็มข้อล่อเต็มแข้งเลย

5.กลุ่ม อิลูมินาติ เป็นกระสอบทรายของวานด้าและเหยื่อของความสยองขวัญของหนังเลย เช่นคาร์เตอร์ ตัวขาด
มิสเตอร์แฟนตาสติก กลายเป็นเส้นก๊วยเตี๋ยว ชารล์ เซเวียร์ โดนฆ่าในภวังค์แบบหนังนิ้วเขมือบ กัปตันมาร์เวล แค่โดนเสาทับก็ตาย และสุดท้ายไฮไลท์ อย่าง แบล็คโบลต์ ที่ตายแบบไม่มีปากแถมยังหัวแบะเพราะพลังตัวเอง

6.Blackbolt แม่งน่าจดจำสุดละ และฉากพี่แกยิ้มจะอยู่บนอินเตอร์เน็ตไปอีกนานเท่านาน