กระแสของหนัง Hunger สปอย ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง วันนี้แอดเลยอยากหยิบยกฉากทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัวนี้มาพูดคุยกัน เพราะมันมีจุดที่พูดถึงด้านมืดและความเปราะบางของมนุษย์ได้ดีมากๆโดยเฉพาะเมื่อมนุษย์ยึดติดอยู่กับอุปทาน และความสวยงามของเปลือกนอก จนคิดว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด และยอมจ่ายราคาสูงเพื่อสิ่งๆนั้น
ก่อนอื่น Hunger สปอย ขอพูดถึงเชฟพอลในฉาก ซุปมาม่า ก่อนเลย
hunger คนหิวเกมกระหาย ที่เป็นเหมือนตัวแทนของ ” นายทุน ” ที่แสดงออกได้อย่างย้อนแย้ง ทั้งในแง่ของจรรยาบรรณทางอาชีพและ คำลวงที่แสดงออกต่อหน้าลูกน้อง เราจะเห็นว่าหลังจากที่กลับมาที่ห้องครัว เชฟพอลก็สอบสวนลูกน้องว่าทำไมถึงมีกุ้งในน้ำซุป และตะคอกลูกน้องในทำนองที่ว่า ลูกสาวบ้านนั้นแพ้กุ้ง ปล่อยให้พลาดมีกุ้งในน้ำซุปได้ยังไง
hunger เรื่องย่อ ฟังดูเผินๆ ก็เหมือนเชฟที่ซื่อตรงในจรรยาบรรณและเอาใจใส่ลูกค้าด้วยความจริงใจ แต่ทว่า ตัวเองก็กลับหลอกลูกค้าซะเองด้วยการเอาเครื่องปรุงรสมาม่า ใส่น้ำก๊อกให้ ลูกค้ากินซะอย่างงั้น มันช่างย้อนแย้งเหลือเกิน ซ้ำแล้วยังมาโป๊ะตอนที่จำได้ว่า เชฟแดงเป็นคนทำ จึงเผลอหลุดพูดในทำนองที่ว่า ” มึ-ง อยากจะทำลายชื่อเสียงกูใช่มั้ย ” แถมยังพูดจาดูถูกเชฟแดง จุดนี้เองที่มันสะท้อนภาพของ นายทุนที่ห่วงแค่แบรนด์ และชื่อเสียงของตัวเอง หาใช่การรักษาจรรยาบรรณอาชีพหรือซื่อสัตย์ต่อลูกค้าแต่อย่างใด ผัดงอแง
จุดนี้มันเลยบอกเล่าสิ่งที่ทุกองค์กรล้วนเคยเจอ แค่มากหรือน้อยต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นนายทุนหรือหัวหน้าจอมเฮี๊ยบ หยาบคาย เอาแต่ได้ สนแค่การแข่งขันเพื่อให้ตัวเองหรือชื่อแบรนด์ยืนอยู่แถวหน้าในแง่ของชื่อเสียง หรืออีกมุมนึงหากจะมองในแง่ของการขัดขาสกัดดาวรุ่งกันเอง ของเหล่าพนักงานที่ต้องแก่งแย่งกันเพื่อช่วงชิงตำแหน่งที่สูงขึ้นไปก็ตามที จึงอาจอนุมานได้ว่า ฉากนี้มันจำลอง โครงสร้างของ..
องค์กรทั่วไปที่มีความทุนนิยมจ๋า” ออกมาได้อย่างเห็นภาพมาก เพราะทุกการเคลื่อนไหวของตัวละคร ที่เต็มไปด้วยเคมีของการแข่งขันนั่นเอง ก๋วยเตี๋ยวงอแง hunger
ส่วนอีกฝั่งทางด้านหัวหน้าครอบครัว ที่ยอมจ่ายเงินในราคาแพง เพียงเพื่อให้ลูกเมียได้ลิ้มรสอาหารสุดหรู ที่มองว่ามันคงจะเป็นมื้อที่ดีที่สุด เพียงเพราะมันแพงและ ปรุงรสด้วยเชฟชื่อดัง บอกตรงๆว่าจุดนี้ทำเอาจุกจริงๆ เพราะไม่เพียงแค่อุปทาน เท่านั้นที่ทำร้ายใครบางคนได้เจ็บปวดขนาดนี้ แต่มันแสดงถึงความยึดติดของมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน เพราะเราอาจมองได้ว่า……. หรือเพราะที่ผ่านมา ครอบครัวนี้เคยใช้ชีวิตแบบยึดติดเปลือกนอกและวิ่งไล่ตามอุปทานหรือเปล่า?? ถึงได้มาถึงจุดนี้ และลงเอยแบบนี้ ที่จบลงด้วยการ…….
” ซดซุปมาม่าในราคาแพงหูฉี่ ก่อนจากโลกใบนี้ไป “
