Ant-Man and the Wasp: Quantumania เรื่องย่อ สก็อตต์ แลงและครอบครัวถูกดูดเข้าสู่มิติควอนตัม ที่นั่นพวกเขาได้พบกับ แคง ผู้พิชิต และค้นพบความลับที่ถูกซ่อนไว้ของ เจเน็ต ผู้ใช้ชีวิตในมิติแห่งนี้มานานกว่า 30 ปี สก็อตต์ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยครอบครัวและเดินทางออกจากมิติควอนตัมให้ได้
Quantumania จาก Marvel Cinematic Universe
ในปัจจุบันนี้มีความยากอยู่พอสมควรครับ เนื่องจากภาพยนตร์นั้นมีหลากหลายมิติให้มองครับ ไม่ว่าจะเป็น การมองมันในฐานะภาพยนตร์สักเรื่อง, การมองมันในฐานะภาพยนตร์ไตรภาค หรือการมองมันในฐานะภาพยนตร์แฟรนไชส์ขนาดใหญ่ ซึ่งในแต่ละมุมมองก็ล้วนมีเหตุผลที่คัดง้างกันได้ไม่รู้จบครับ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพยนตร์ที่ใช้เปิดเฟส 5 ของ MCU อย่าง แอด แมน and the Wasp นั้น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนภาพยนตร์ก็เต็มไปด้วยบาดแผลอยู่ดี
เมื่อมองจากความเป็นไตรภาคของ Ant Man and the Wasp Quantum
ด้วยทิศทางใหม่ของภาพยนตร์ภาคนี้ทำให้ Ant-Man and the Wasp สูญเสียตัวตนและเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปพอสมควรครับ จากภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่กลุ่มตัวละครนั้นต้องแก้ไขปัญหาในระดับบุคคล ถูกผูกโยงเข้ากับความซับซ้อนของจักรวาลที่ใหญ่ขึ้นอย่างมิติควอนตัม Ant-Man 3 จึงกลายสภาพเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซีอย่างเต็มรูปแบบ
แต่ถึงกระนั้นหากเรามองมันจากภาพของความเป็นแฟรนไชส์ Ant-Man 3 and the Wasp ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เสียสละด้วยการรับหน้าที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของจักรวาล เพื่อใช้ปูเรื่องราวไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา และเมื่อมองจากมุมนี้ การที่แอนท์แมนเคยเผชิญหน้ากับธานอสมาแล้ว การผจญภัยในมิติควอนตัมก็คงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขาเท่าไรนัก
หากว่ากันตามตรงแล้ว พื้นสัมผัสของมิติควอนตัมนั้นดูจะขรุขระมากเพียงใด การเล่าเรื่องของภาพยนตร์ก็มีปัญหาไม่ต่างกันครับ ปัจจัยหลักนั้นมาจากการที่ภาพยนตร์เลือกเดินเครื่องด้วยจังหวะที่เร็วจนเกินไป จนทำให้ผู้ชมไม่มีเวลาซึมซับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้มากพอ โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์และความขัดแย้งระหว่างตัวละคร ซ้ำร้ายเมื่อภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของมิติควอนตัมอันซ้อนทับกับเรื่องราวของมัลติเวิร์ส ก็ยิ่งผลักผู้ชมให้ไกลออกจากตัวละครมากขึ้นไปอีก
ความเร็วในการเล่าเรื่อง เป็นตัวช่วยสำคัญในการปกปิดบาดแผลของ Quantumania
แต่ในกรณีนี้มันกลับกลายเป็นการเปิดแผลให้เห็นชัดขึ้นแทนครับ ไล่มาตั้งแต่จุดตั้งต้นของปัญหาทั้งหมดในเรื่อง รวมถึงการกุมความลับของเจเน็ตที่อาจส่งผลร้ายต่อทั้งจักรวาล กลับกลายเป็นเรื่องงี่เง่าและไม่น่าเชื่อถือ ในขณะที่เหตุการณ์ดำเนินไป ภาพยนตร์มีการแบ่งตัวละครออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อให้อุปสรรคในเรื่องนั้นแก้ไขได้ยากขึ้น
แต่มันก็กลับไม่ได้ส่งผลอย่างที่ภาพยนตร์ต้องการ และแม้ว่าจะมีการหยิบยื่นทางเลือกสำคัญให้กับตัวละครอย่าง สก็อตต์ แลง ว่าเขาจะตัดสินใจกอบกู้จักรวาล หรือเขาจะทำหน้าที่พ่อด้วยการปกป้องลูกสาวของเขา แต่เดิมพันเหล่านั้นกลับไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างคุ้มค่า จนทุกการตัดสินใจของเขาดูจะเป็นเรื่องง่ายไปเสียทั้งหมด
วายร้ายหลักของจักรวาลคนใหม่ kang the conqueror เก่งไหม
กับการเปิดตัววายร้ายหลักของจักรวาลคนใหม่อย่าง แคง ผู้พิชิต ได้อย่างน่าจับตามอง แม้ว่าจะยังไม่ได้รับรู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของเขามากมายนัก แต่ก็นับว่าเป็นวายร้ายที่น่าจะมีอะไรให้ขยายผลต่อในอนาคต เนื่องจากมีความเกี่ยวกันพันกับเรื่องราวของเส้นเวลาและมัลติเวิร์ส แต่ในเชิงของอุดมการณ์และแรงขับเคลื่อนทั้งหมดของตัวละครนั้นยังคงต้องติดตามต่อไป
ขณะที่ Jonathan Majors ก็สามารถมอบความหลากหลาย และสร้างมิติให้กับตัวละครนี้ได้ดีเท่าที่บทภาพยนตร์จะส่งได้ โดยเฉพาะรังสีอำมหิตในช่วงที่แคงต้องปะทะกับแอนท์แมนแบบตัวต่อตัว หมัดต่อหมัด โดยไม่ต้องหวังพึ่งแสงสีหรือเอฟเฟกต์ตระการตาครับ ขณะที่น้องใหม่ของแฟรนไชส์อีกหนึ่งคนอย่าง Kathryn Newton ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ แต่หากว่ากันด้วยการแสดงล้วนๆ แล้ว ภาพยนตร์ก็ไม่ได้มอบพื้นที่ให้กับเธอได้โชว์ความสามารถอะไรมากมายนัก ant man and the wasp quantumania