ขออนุญาตสรุปให้สำหรับผู้ชมที่ยังไม่ได้ดูเลยครับเรสซิเดนท์อีวิลเวอร์ชั่นนี้สำหรับผมมันสามารถมองได้ว่าเป็นภาคต่อจากตะวันของเกมหรือจะมองว่าเป็นการ Reboot เลยก็ได้ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ผู้ชมแต่ละคนครับมันก็เท่ากับว่าเราไม่ต้องรู้เรื่องราวของเกมมาก่อนก็ได้ไม่จำเป็นต้องดู Resident Evil ในเวอร์ชันอื่นๆเลยก็ยังเข้าใจในเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ได้อยู่
ทีม Resident Evil วางโครงเรื่องใหม่หมด
แค่หยิบเอาตัวละคร Monster และ สตอรี่ เกี่ยวกับ แรคคูนซิตี้ เมื่อปี 1998 มาเป็นจุดอ้างอิงว่าเป็นเหตุการณ์ย้อนหลังนะครับไปใช้เป็นเซตติ้งที่โยงไปยังทำร้ายปัจจุบันในเรื่องที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาได้แก่ปี 2022 แล้วก็ปี 2036 ในแง่ของความรู้สึกแบบไม่ สปอย นะครับสำหรับผมได้ดูตั้งแต่ Episode 1 ถึง 4 นั้นสนุกใช้ได้อยู่นะอาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ได้คาดหวังนะครับว่าเราเจ็บมาเยอะกับ Live Action อนิเมชั่นของเกมเกมนี้ผมคงไม่คาดหวังและได้เจอเนื้อเรื่องและองค์ประกอบต่างๆมี 4 ตอนแรกมันก็เลยดูสนุกและชอบการตีความของทีมสร้างอยู่นะครับ ยังไงก็ตาม ep 5 จะไปจบทิศทางไหนก็รอดูกันต่อแต่หนัง เล่าเรื่องผ่านการฝึกของตัวละครส่วนใหญ่ เกี่ยวกับวิธีการลำดับเรื่องการวิวาทในประเด็นบางอย่างที่น่าจะทำให้เราตื่นเต้นกว่านี้แต่มันเหมือนไปไม่ถึง ที่ผมจะบอกก็คือไม่ใช่ว่าเรื่องไม่ดีนะจริงๆถ้ามองในภาพรวมของเก่าโอเคกับโครงเรื่องที่เขาวางมานะครับ
สำหรับ Resident Evil เราให้คะแนนอยู่ที่ 7
ไม่ได้แย่เลยฉะนั้นถ้าจะให้คะแนนเขาก็คงให้ไปที่ 7 เต็ม 10 แต่ถ้านับเฉพาะส่วนแรกผมกะจะให้ไปถึง 8 เต็ม 10 เลยครับรีวิวประมาณนี้สำหรับผู้ชมที่ยังไม่ได้ดูนะต่อไปจะเป็นเนื้อหาที่พูดถึงเกี่ยวกับในเรื่องแล้วนะครับฉะนั้นท่านผู้ชมที่ยังไม่ได้ดูก็ควรจะหยุดอ่านไว้แค่นี้ก่อน แล้วคิดยังไงก็วนกลับมา comment แลกเปลี่ยนกันอีกทีครับ
เรื่องย่อของของ ผีชีวะ เวอร์ชั่นซีรีย์
Resident Evil netflix series ภาคนี้บอกเล่าเรื่องราวของสองพี่น้องและลูกสาวฝาแฝดของ อัลเบิร์ตเวสเกอร์ ครับตัวนี้เบื้องต้นในปี 2536 เมื่อโลกต้องรับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสทำให้ประชากรโลกกว่า 90% ต้องกลายเป็นซอมบี้ เจสในวัยผู้ใหญ่ทำหน้าที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางออกมาลงพื้นที่เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงของ ซอมบี้ แนวคิดที่ว่าประสาทสัมผัสของสิ่งมีชีวิตลดลงสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะวิวัฒนาการทักษะอีกอย่างขึ้นมาซึ่งตลอด 14 ปีที่โลกเผชิญหน้ากับซอมบี้ ระยะเวลาที่เลยผ่านก็ทำให้พวกมันสูญเสียการมองเห็นและความสามารถในการได้ยิน แต่ว่าทักษะในการดมกลิ่นเลือดก็ถูกยกระดับให้สูงขึ้นมากๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เชื่อว่าพวกมันอาจจะวิวัฒนาการอะไรบางอย่างขึ้นมาอีกและทำให้เธอต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงตามลำพังจะได้เจอกับหนอนยักษ์ กลุ่มผู้รอดชีวิตจากตัวและเกือบทุกองค์กร อัลเมร่า ที่กลายมาเป็นมหาอำนาจจับกุมตัวไปด้วย
การดำเนินเรื่องในส่วนแรกของซี่รีย์
สำหรับผมก็ถือว่าสนุกเลยครับมาให้ feelling ของการเอาตัวรอดได้เห็นฉากแอ็คชั่นเจสันสเตที่เป็นไอคอนของ ผีชีวะ ภาคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ลิกเกอร์ แมงมุมติดเชื้อ และใส่ตัวละครที่เป็นตัวโจ๊กเข้ามาด้วยนะครับตอนแรกผมก็รู้สึกแปลกๆนะแต่เข้าใจว่าคุยกับเขาไม่อยากให้เครียดเกินไปดูๆไปแล้วก็โอเคกับจุดนี้นะครับหรือจะเป็นสิ่งที่ตั้งใจปล่อยมุกก็มีอยู่บ้างผมว่ามันก็เป็นการพักเบรคบรรยากาศตึงเครียดให้กับคนดูได้ดีก็ถือว่าเป็นสีสันของเรื่องก็แล้วกันครับ
เหตุการณ์ก่อนเกิดเรื่อง ซอมบี้ ครองโลก
นอกจากเหตุการณ์ในช่วงปี 2036 เรื่องก็จะมีการเล่าสลับย้อนกลับไปในช่วงปี 2022 ด้วยครับผมจำตัวเลขไม่ผิดน่าจะเป็น เหตุการณ์ 3 เดือนก่อนโลกล่มสลาย เนื่องในส่วนนี้ก็จะมีพี่น้องเจสและลิลลี่เป็นแกนกลางของการดำเนินเรื่องครับแน่นอนครับเพราะเป็นหนังวัยรุ่นมันก็จะมีสัดส่วนของความเป็นวัยทีนเข้ามาทั้งการใช้ชีวิตในโรงเรียนการ bully กันการต้องการการยอมรับจากเพื่อน ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่พยายามจะปกป้องกันและกัน ไม่ได้เลยก็คือการบั๊บของเด็กทั้งสองต้องบอกว่าตัวละครวัยรุ่นจากภาพยนตร์หลายเรื่องมากจะถูกบังคับให้ทำเรื่องที่ผิดพลาดนะครับโดยเฉพาะต้นเหตุจากความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา
ความดื้อของตัวละครหลัก ที่น่าหงุดหงิด
- ยิ่งสร้างปัญหาต่างๆแล้วก็ส่งผลกระทบในด้านลบอีกมากมายเหลือเกินว่าคงจะมีคนชมไม่น้อยที่เสี่ยงกับการไม่ฟังใครของเด็กทั้งสองมีครั้งที่ 1 ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่น้องเล่นลากยาวไปเรื่อยๆจะไปให้สุดในทางดื้อเลยครับทุกอย่างมันก็เลยพับลงเรื่อยๆครับส่วนตัวผมเห็นน้องเจสเตอร์ในวัยเด็กจะรู้ได้เลยว่าน้องจะทำพังได้ทุกเมื่อมันจะรู้สึกได้เลยครับฉันจะปลอมตัวไปฟาดเด็กที่มาแกล้งพี่สาวแต่ก็ดันออกชุดปลอมตัวมาใส่ล็อกเกอร์บิลลี่ อยากรู้ความลับพ่อก็เลยหาห้องลับในบ้านใช้ส่วนห้องก็ลุกไหม้ เพราะนางดันไปปิดระบบป้องกันภัยทำงาน
- หรือว่าจะเป็นตอนโตก็ยังดื้ออยู่นะครับ จะทดลองว่าซอมบี้กลัวฟีโรโมนที่สกัดได้หรือเปล่า ก็เลยลงไปจับตัวพี่มาทดลองบนเรือที่เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด สรุปซอมบี้หลุดเพื่อนตาย เจสจะเป็นตัวละครที่ถูกออกแบบมาให้พังกับทุกเรื่องจริงๆแล้วก็เลย
- เป็นตัวเอกที่ดูแล้วน่าหงุดหงิดมากๆครับยังไงก็ตามส่วนที่ช่วยแบบ 4 ตอนแรกให้ผมสนุกก็คือเรื่องที่ทิ้งปมให้เราอยากติดตามต่อต้านการติดเชื้อของบิลลี่ต้องถามเรื่องการฉีดเลือดลูกสาว 2 คนให้กับตัวเองของอัลเบิร์ตเจอกับเหตุการณ์ของวันโลกล่มสลายความอยากรู้เกี่ยวกับความเร็วในช่วงปี 2016 เพราะเขามีแผนการอะไรต่อไป ตัวละครสำคัญจะรอดมาถึงปัจจุบันหรือเปล่าในโลกมนุษย์ปรับตัวยังไงกับการมีซอมบี้ครับ
เรื่องถูกยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตด้วย แรคคูน ซิตี้ ในปี 1998 เกิดเหตุการณ์ที่ อีโกน่า ในเม็กซิโกก็เลยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันก็ยังพอมีมุมที่น่าติดตามอยู่นะครับ กระทั่งเข้าสู่ epที่ 5 ปทบางอย่างก็ค่อยๆถูกโฉลกออกมาการเอาตัวรอดของเจสในปี 2016 ก็เปลี่ยนมาเป็นแง่มุมของครอบครัวกับการทดลองแทนส่วนตอนที่เราย้อนอดีตก็จะมีการย้ำซ้ำเกี่ยวกับ จอย ก็คือยาที่ผลิตมาจาก ทีไวรัส การหนี้ไปหนี้มาของสองพี่น้องนะครับ แล้วก็การเสนอความจริงเกี่ยวกับโปรเจคเวกเตอร์ ที่ส่วนตัวผมมองว่าท่านผู้ชมไม่ได้รู้เรื่องการเกมส์มาก่อนผมคิดว่าการหักมุมเกี่ยวกับเวกเตอร์มันจะ epic มากเลย แต่กลับกลายเป็นว่า ฉากที่เฉลยความจริงมันดูๆยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันครับไม่น่าจะมีการ บิวอัพเรื่องนี้ให้มากหน่อยแล้วเฉลยอย่างอลังการ ให้คนดูแบบเราหงายหลังไปเลยน่าเสียดายครับที่เขาไม่ได้ทำ
สรุปเนื้อเรื่อง ผีชีวะ ในครึ่งหลังทำคนดูปวดหัวไปหมด
การกระทำหรือยังของตัวละครในครึ่งหลังของเรื่องก็แปลกประหลาดมากครับ เช่นกันที่ เอเวอร์รีนตัดสินใจยิงลูกชายตัวเอง การผสมจอยให้กับภรรยาของเธอกิน และพาซอมบี้ขึ้นบนเรือของตัวเองนะครับ การตัดสินใจขับรถออกไปคนเดียวของบี แรงจูงใจของบิลลี่ เนื้อเรื่องนี้ขึ้นหลังของ Series จึงขาดความสมเหตุสมผลและอย่างมันเหมือนกับว่าเขาคิดแบบนี้มาก่อนแล้วค่อยมาแต่งเรื่องใส่เข้าไป เอาที่ชัดๆเลยนะครับก็คือปล่อยจระเข้ เหมือนกับว่า producer บอกนะว่า จระเข้ยักษ์ ต้องมีนะ คนเขียนบนก็ต้องไปคิดว่าจะยัดจระเข้ยักษ์ในเรื่องยังไง สรุปก็คือปล่อยพี่เข้ออกมาขัดขวางไม่ให้ อำเบล่าขึ้นฮอ ตามเราได้ แต่ท้ายสุดก็ขึ้นได้อยู่ดี สำหรับผมผมก็มองว่าเปิดช่วงหลังมาดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่