เราจะมาพูดถึงเรื่องราวของ thor love and Thunder กันดีกว่านะครับว่าในคลิปนี้เองจะมารีวิวแบบไม่มี สปอย นะครับผมซึ่งตัวผมเองก็ได้ดูมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับแล้วเราจะมาพูดกันว่าเราชอบไม่ชอบยังไงนะครับผมเราชอบไม่ชอบยังไงเนี่ยผมถึงบอกไว้ก่อนเลยนะว่าตัวผมเองไงดูมาทั้งในเวอร์ชั่น Comic แล้วก็ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์แล้ว
โครงเรื่อง thor love and Thunder ที่ค่อนข้างจะเหมือนได้ตั้งเยอะนะแต่ก็มีความต่างกันอยู่หลายจุดเหมือนกันนะครับเพราะว่าในภาพยนตร์เองในมันเป็นการแสดงของ 2 Event เข้ามารวมกันนั่นก็คือ ไมทตี้ ธอร์ นะครับผมหรือว่า Event ที่ เจน ฟอสเตอร์ เองนะได้กลายเป็น เทพแห่งสายฟ้า แล้วก็รวมมากับ Event gorr the god butcher เป็นการต่อสู้ระหว่างกับตัวของ ธอร์ โอดินสัน นั่นเอง
แยกกันออกมาแล้วในคอมเม้นท์ไงแต่เรียกว่า 2 เรื่องราวสนุกทั้งคู่ใน Commic นะที่นี่เองเพราะเอามารวมกันในภาพยนตร์ไงมันก็ทำให้เกิดมิติใหม่ๆขึ้นมาเลยเรามาเริ่มพูดกันดีกว่าว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไงแน่นอนเลยครับตัวของตัวเองอ่ะมันจะกลายเป็นหนังตลกตั้งแต่ตอนแรกแล้วถูกไหมแต่ภายในความเป็นหนังตลกของมันเนี่ยนะครับมันก็มีความที่เป็นเนื้อเรื่องโคลงหลักที่ไม่ได้เป็นเรื่องตลกอยู่ในนั้นด้วยแต่เราจะถูกเล่าเรื่องด้วยความตลกนั่นเองซึ่งทำให้เนื้อเรื่องเนี่ยไม่เบื่อเลยนะเองนะครับผมประมาณ 2 ชั่วโมงที่เราดูแลเรารู้สึกเหมือนชั่วโมงเดียวด้วยซ้ำอ่ะแล้วมุกตลกเป็นมุขตลกที่เรียกว่ามันไม่ต้องพูดออกมาบางอย่างมันตลกด้วยการกระทำหลายอย่างเลย
เป็นหนังที่ดูแล้วอมยิ้มได้ทั้งเรื่องเลยนะครับแล้วก็ดีเองอ่ะจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ในผมคิดว่าหนึ่งเลยตลกนำนะครับ 2 เลยนะครับผมเรื่องอะไรครับผมคิดว่าตรงนี้เองอ่ะมันมีความที่เล่าแบบรีบไปหน่อยเพราะว่าถ้าทำให้ยาวกว่านี้ทำหนังแม่ง 2 ชั่วโมงครึ่ง 3 ชั่วโมงไปเลยเราจะได้เข้าถึงความรู้สึกของตัวละครมากกว่านี้ถ้าตรงนี้เองอ่ะมันจะมีจุดอยู่นิดเดียวที่ผมรู้สึกว่ามันถูกตัดออกไปอ่ะครับมันก็คือความลึกของตัวร้ายสำหรับผมที่เป็นแฟนของ กอร์ เป็นตัวละครที่มีอะไรที่เราเรียนรู้เยอะมากๆเลยแล้วก็เป็นตัวที่แฟนคลับชอบนะแต่พอมาในหนังสือด้วยความที่มันมีเรื่องราวให้เราเยอะมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเองก็ตามนั้นครับผมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเราที่พระเจ้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจนฟอสเตอร์รวมไปถึงเรื่องของกูเองอ่ะมันเหมือนต้องหารส่วนออกไปเยอะๆทำให้แต่ละคนน่ะไม่ได้เวลาคุยตามที่มันควรจะเป็น
ผมเองก็ผมคิดว่า thor love and Thunder มันสั้นไปนั่นเองนะครับแต่โดยรวมถือว่าเราได้กระชับแล้วก็รวดเร็วไม่มีความเบื่อในนั้นเลยนะครับทุกอย่างเร็วไปหมดนั่นเองซึ่งความเร็วตรงนี้มันเป็นทั้งข้อดีแล้วก็เป็นข้อเสียไปด้วยนะครับแต่โดยรวมแล้วถือว่าทำได้เก่งมากๆเลยนะคือตลกแบบไม่ได้รู้สึกยัดเยียดความตลกมึงไปตลกธรรมชาติเนื้อเรื่องดำเนินไปได้ครบทุกประเด็นแล้วก็ได้เห็นตัวละครที่น่าสนใจหลายตัวเลยไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าหลายองค์เองก็ตามถือว่าเป็นตัวของเจนฟอสเตอร์หรือแม้แต่ก็ยังไงตัวเองถึงแม้จะมีเวลาเล่าน้อยแล้วก็พอรู้สึกถึงตัวละครได้ในระดับหนึ่งแต่ก็เข้าใจนะว่ามันรีบก็เลยโอเคโดยรวมถือว่าดีมากๆนะครับที่นี่เองให้พบอีก
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนะครับก็คือความคาดเดาไม่ได้นั่นเอง ไม่ได้นั่นเองจะดูไปดูไปสักครึ่งเรื่องคิดล่ะเราดูและหนังมันจะออกมาเป็นแบบไหนแต่สุดท้ายหนังมันแบบเดาไม่ได้คือผมบอกเลยว่าใครแม่งจะเดาถูกว่าให้เราถูกนี้ผมขอยกมือไหว้เลยว่ามึงโคตรเก่งอ่ะคือมึงแบบอัจฉริยะแห่งโลกมึงต้องมีพลังในการมองอนาคตได้แล้วแต่มึงจะเอาตอนจบของหนังเรื่องนี้ได้ไหมครับมีเป็นจุดเด่นจุดที่แบบเด็ดสุดๆเลยนั้นเองแล้วก็เอ็นเครดิตก็พีคมากๆนะครับผมโดย End Credit มีความพีคทั้งคู่เลยนะ โอเคเอาเป็นว่าหนังมีความพีคและคุณภาพโดยรวมให้ 9.5 เต็ม 10 เลยนะครับคือที่ตัดไปเนี่ยเพราะรู้สึกว่าด้วยความที่เราทุกอย่างแล้วครบก็จริงแต่มันมีประเด็นให้เราเยอะมากๆผ้ายืดให้มันยาวสัก 3 ชั่วโมงเดียวได้มีเวลาเจาะใจในแต่ละประเด็นมากกว่านี้นะครับอาจจะทำให้นอกจากมีความหาแล้วอ่ะมันจะมีความฟินความซึ้งความเศร้าไปกับตัวละครมากกว่านี้แต่โดยรวมถือว่าโอจะดีแล้วเสร็จแล้ว