วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567

Ride On ควบสู้ฟัด ภาพยนตร์ล่าสุดของเฉินหลง

Ride On ควบสู้ฟัด ภาพยนตร์ล่าสุดของเฉินหลง

Ride On ควบสู้ฟัด เรื่องย่อ หลัว สตั๊นท์แมนชื่อดังที่ร่วงโรยสู่บั้นปลายอาชีพ และม้าคู่ใจของเขาอย่าง กระต่ายแดง ที่กำลังจะถูกเจ้าหนี้ยึดเพื่อนำไปประมูลขาย หลัวจึงต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจากลูกสาวของเขาและเริ่มต้นสานสัมพันธ์อันแตกสลายให้กลับมาเป็นเหมือนเก่า ในขณะเดียวกันนั้น หลัวก็ต้องทบทวนบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสตั๊นท์แมน และต่อสู้กับการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย

ควบสู้ฟัด แสดงนำโดย Jackie Chan หรือเฉินหลง

เป็นนักแสดงที่ชื่อของเขา ถูกใช้เป็นคำนิยามของภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจนครับ เพราะทุกครั้งเมื่อเราพูดถึง ‘หนังเฉินหลง’ ผู้ชมทุกคนย่อมนึกออกทันทีว่าผลงานเรื่องนั้นต้องเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นคอมเมดี้ ซึ่งเต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และฉากสตั๊นท์เสี่ยงตายมากมายครับ แม้ว่าจะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผลงานล่าสุดของเฉินหลงอย่าง Ride On ควบสู้ฟัดสปอย ดูคล้ายจะเป็นภาพยนตร์สั่งลาของเขาอยู่ในที

ควบสู้ฟัด แสดงนำโดย Jackie Chan หรือเฉินหลง

เพราะมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของการรำลึกความหลัง การพินิจทบทวนบทบาทของตัวเองในโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงการดำรงอยู่ของสตั๊นท์แมนท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกองถ่าย และแน่นอนว่ารสชาติโดยรวมของ Ride On นั้นห่างไกลจากคำว่า ‘หนังเฉินหลง’ อยู่พอสมควรครับ

Ride On ภาพยนตร์ขับเน้นเรื่องราวผ่าน 3 เส้นเรื่องหลัก

อันว่าด้วยการแสดงความเคารพต่อจิตวิญญาณของสตั๊นท์แมน, การกู้คืนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกสาว และมิตรภาพอันงดงามระหว่างหลัวกับม้าคู่ใจอย่างกระต่ายแดงครับ โดยแต่ละเส้นเรื่องนั้นมีแง่มุมที่น่าสนใจเป็นของตัวเองและมีศักยภาพที่จะสร้างโมเมนต์แห่งความซาบซึ้งให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี Ride On พากย์ไทย แต่ถึงกระนั้นปัญหาสำคัญของภาพยนตร์ก็คือวิธีการเล่าเรื่องครับ โดยภาพยนตร์เลือกจะให้น้ำหนักกับทุกเส้นเรื่องอย่างเท่ากัน ข้อดีคือภาพยนตร์นั้นมีหลากหลายแง่มุมให้จับต้อง แต่ข้อเสียคือภาพยนตร์นั้นขาดโฟกัสที่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการจะเล่า

Ride On ภาพยนตร์ขับเน้นเรื่องราวผ่าน 3 เส้นเรื่องหลัก

การหารเฉลี่ยเวลากันยังทำให้แต่ละเส้นเรื่องขาดพัฒนาการในตัวเองอย่างรุนแรงครับ ตัวละครอย่างหลัวนั้นถูกเปิดด้วยการเป็นชายชราใจดีที่พร้อมดูแลทุกคน แต่หลังจากเหตุการณ์บนหน้าจอดำเนินไปมันกลับเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนที่ดันทุรังอย่างไร้เหตุผล ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างหลัวกับลูกสาวของเขาก็บิดเบี้ยวและขาดความต่อเนื่อง ถึงขนาดที่ทั้งคู่สามารถรักกันปานจะกลืนกินและโกรธจนไม่อยากมองหน้ากันได้ภายในฉากเดียวกัน อีกหนึ่งเส้นเรื่องที่น่าสนใจก็คือการสำรวจภาวะไม้ใกล้ฝั่งแต่จมไม่ลงของหลัว

แจ็ ค กี้ ชาน ล่าสุด ผ่านอาชีพสตั๊นท์แมนที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนและความเชื่อของตัวเอง ก็กลับถูกแตะเพียงแค่ผิวเผิน และเต็มไปด้วยความย้อนแย้งทางการตัดสินใจของตัวละคร เส้นเรื่องที่ดูดีที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างหลัวและม้าคู่ใจของเขาอย่างกระต่ายแดง มิตรภาพอันงดงามของทั้งคู่นั้นชวนให้ซาบซึ้งจนผมคิดว่า หากภาพยนตร์เลือกโฟกัสแค่เพียงเส้นเรื่องนี้เพียงเส้นเรื่องเดียว ภาพยนตร์อาจจะกลมกล่อมมากกว่าที่เป็นอยู่ครับ

เมื่อเราพูดถึง ‘หนังเฉินหลง’ ทุกๆคนคงรู้ว่ามันคงเป็น หนังตลก

เมื่อเราพูดถึง ‘หนังเฉินหลง’ ทุกๆคนคงรู้ว่ามันคงเป็น หนังตลก

อีกหนึ่งปัญหาที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนก็คือ เมื่อเราพูดถึง ‘หนังเฉินหลง’ มันคล้ายจะเป็นภาคบังคับว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ จะต้องเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้ ซึ่ง Ride On ก็มีความพยายามจะเป็นอย่างนั้นครับ แต่แก่นแท้จริงๆ ของภาพยนตร์นั้นมีความดราม่าสูงมาก เมื่อทุกอย่างต้องถูกปรุงรวมกันให้อยู่ในเวลาจำกัด ภาพที่ออกมาจึงดูไปคนละทิศละทางอย่างช่วยไม่ได้ ควบสู้ฟัด

ภาพยนตร์เลือกแก้ปัญหาด้วยการบอกผู้ชมอย่างชัดเจนครับว่าแต่ละฉากนั้นผู้ชมควรรู้สึกอย่างไร ผ่านการเล่าเรื่องที่กำปั้นทุบดินในทุกภาคส่วน ทั้งบทสนทนาที่แข็งทื่อซื่อตรงต่ออารมณ์ที่ต้องการนำเสนออย่างขาดศิลปะ รวมไปถึงการตัดต่อและดนตรีประกอบที่เน้นการสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมอย่างหนักหน่วง แต่ผลลัพธ์กลับเป็นความล้มเหลวในการควบคุมอารมณ์และความต่อเนื่องของภาพยนตร์