วันอังคาร, 15 ตุลาคม 2567

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick ท็อปกัน มาเวอริค 2022

05 ก.ค. 2022
467

Top Gun: Maverick เป็นหนัง แอ็คชั่น ทหาร ที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม รับบทโดย ทอม ครูซ แสดงเป็น พีท มาเวอริค มิทเชล นักบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐ

สารภาพเลยว่าจะเป็นภาคแรกของหนังเรื่อง Top Gun: Maverick ไม่ได้แม้แต่นิดเดียวแม่ระยะเวลาห่างจากภาคแรกตั้ง 36 ปีแล้วครับซึ่งตอนที่มันเข้าเลยผมยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ตอนที่ดูเนี่ยดูเป็นวีดีโอด้วยซ้ำจำไม่ได้เหรอครับว่ามันเป็นยังไงแล้วก็ก่อนที่หนังเรื่องนี้หรือว่าภาพที่ 2 ของมันอย่างท็อปกันมาเลยกำลังจะเข้าเนี่ยผมก็ลังเลใจเหมือนกันว่าจะย้อนกลับไปดูภาคแรกดีไหมแต่ว่าก็ตัดสินใจคำว่าไม่ดีกว่าเนื่องด้วยระยะห่างของทั้งสองภาพที่นานเกินไปผมชื่อว่าอะไรคนเนี่ยก็น่าจะลืมกันไปแล้วแน่นอนหรือไม่ก็ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำตัวเองก็เลยอยากจะได้ประสบการณ์การเข้าไปดูแบบหัวตรงๆครับ 

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick
รีวิวหนัง Top Gun: Maverick

ถ้าดูแบบไม่เคยดูภาคแรกมาจำไม่ได้เลยหนังมันจะสนุกหรือเปล่าแต่ถึงจะจำอะไรเกี่ยวกับภาคแรกไม่ได้ไหมครับถ้าผมในก็เป็นคนที่ชอบอ่านหรือว่าดูหนังแนวทหารมาเยอะอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะกับพวกยุทโธปกรณ์ต่างๆก็ขึ้นรถเองก็เป็นหนึ่งในนั้นก็เลยพอจะรู้เรื่องการต่อสู้ทางอากาศอยู่บ้างพอที่จะมีภาพในหัวเวลาดูหนังกับซึ่งก่อนจะได้ดูหนังเรื่องนี้เนี่ยก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกันเพราะว่ามีประสบการณ์เยอะเกี่ยวกับหนังประเทศที่เอาแต่เส้นเก่ามาเล่าใหม่อยู่พอสมควรส่วนมากเราจะเน้นไปที่ความ not Clear Easter Egg หรือว่าอะไรแบบนั้นก็จงลืมว่าตัวตนแกนหลักของเรื่องมันควรจะเป็นยังไง

พอมีโอกาสได้ดูตัวอย่าง 5 นาทีเต็มที่ปล่อยออกมาในช่วงสุดท้ายเนี่ยถ้าไม่รู้สึกว่ามันมีความหวังมากขึ้นเลยแล้วก็ทุกอย่างมันดูดีทั้งเรื่องของงานภาพมุมกล้องแล้วก็ฉาบซ้อมรบเช่นเดียวกันมันเต็มไปด้วยกลยุทธ์ซับแสงเทคนิคต่างๆก็เข้าท่าครับและที่สำคัญก็คือพี่ทอมครูซของเราเนี่ยก็ยังเท่เหมือนเดิมครับอยากจะพูดถึงเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้นิดนึงแล้วก็คือนักแสดงทุกคนเนี่ยได้ขึ้นไปอยู่บนเครื่องบินรบจริงๆนะครับทุกคนต้องผ่านการฝึกอย่างโหดมากเพื่อจะได้ขึ้นไปบน Cockpit อันนั้นก็จะได้ถ่ายฉากใน Cockpit ด้วยตัวเองซึ่งจากการที่พวกเขาเนี่ยทุ่มทุนแล้วก็ทุ่มแรงขนาดนี้มันก็ทำให้เราได้เห็นภาพที่เจ๋งมากๆภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ส่วนจะเจ๋งขนาดไหนเนี่ยเดี๋ยวเราค่อยว่ากัน 

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick
รีวิวหนัง Top Gun: Maverick

เท่ากันภาคนี้แหละเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากภาคแรกถึง 34 ปีครับตัวกัปตันอย่าง พระเอก ไม่ใช่ทหารประจำเครื่องของเขาจะได้ดีและวีรบุรุษกำลังจะเข้าสู่ยุคตกอับในยุคนี้ที่เครื่องบินรบนั้นแทบจะขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองนักบินแทบจะไม่มีความต้องการอีกต่อไปในจุดต่ำสุดนี่เองก็ได้รับคำสั่งให้กลับไปอย่างท็อปกันครับสู้ศึกดั้งเดิมของเขานั่นเองแต่คราวนี้แหละกลับไปในฐานะครูฝึกไม่ใช่เสืออากาศอีกต่อไปเผชิญหน้ากับเหล่านักบินรุ่นใหม่ที่ฝีมือไม่ธรรมดาสักคนเลยครับอย่างนั้นก็คือพวกเขาเนี่ยมารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ยากระดับหัวหินครับเทียบเคียงกับการคว้าตั๋วเที่ยวเดียวไปแล้วไม่มีวันกลับต้นทางสำเร็จที่ว่าน้อยแล้วโอกาสรอดนั้นน้อยยิ่งกว่า 

ของเจ้าของฉายามาเลย์ก็คือการทำให้สิ่งนี้นั้นเกิดขึ้นเรื่องราวจะเป็นอย่างไรอดีตวีรบุรุษคนนี้จะยังคงไว้ลวดลายของเขาได้หรือไม่ติดตามได้ใน ภาพยนตร์ top gun maverick ทวนความรู้สึกหลังจากดูจบเนี่ยจริงๆก็รู้สึกตั้งแต่ดูแล้วล่ะก็เพราะหนังเรื่องนี้นั้นแม่งโคตรมันก็ไปนั่งที่ไม่คิดว่าตัวเองนั้นจะชอบหนังเรื่องนี้ได้ขนาดนี้ครับสิ่งที่ดูนั้นมันเกินคาดมากจริงๆและมีความเป็นอเมริกันแบบจะๆเลยครับแต่มาในแนวทหารอเมริกันซึ่งเป็นแนวที่ผมรู้สึกว่าดูแล้วก็ชอบมากเหมือนกันซึ่งส่วนคำถามที่ว่าต้องดูภาคแรกไหมไม่ต้องดูเลยครับเรื่องนี้เนี่ยดูได้เหมือนเป็นหนังตัวหนังนั้นไม่ได้เน้นขายของเก่าสักเท่าไหร่ครับที่ในระหว่างดูนั้นเราก็รู้ว่ามันเป็น easter egg แต่ว่าก็ทำออกมาได้อย่างเข้าใจง่ายแล้วก็สร้างไปอย่างฉากต่อไปด้วยครับต้องชมเพราะที่วางระดับการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดีมีแต่เนื้อกับไม่มีน้ำเลยเราไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของตัว พระเอก ทั้งหมดได้รับรู้ว่าเขาเป็นใครมีสถานะยังไงและเก่งขนาดไหนก็เพียงพอแล้ว 

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick
รีวิวหนัง Top Gun: Maverick

Feeling เหลี่ยมคล้ายกับการได้ดู Jack reacher เวอร์ชั่นทหารอากาศนั่นแหละครับเป็นตัวตนเร็วๆนั้นเลยให้อารมณ์ทหารอายุ 40-50 ปีเก่งระดับเทพหัวขบถไม่ยอมใครเลยทำให้เขาเนี่ยยศไม่ค่อยขึ้นดังนั้นพี่อายุมากแล้วก็ตามหลายคนอาจจะมองว่าตัวเคยเจอแบบนี้เนี่ยไม่ค่อยน่าสนใจนะครับแต่ว่าผมไม่ต้องขอเถียงในประเด็นนี้ครับเพราะในเรื่อง top gun maverick เนี่ยเขาทำออกมาได้ดีมากๆการต่อสู้นั้นจะเป็นการแนวใช้แท็กติดมีการวางแผนที่เยอะมากๆเข้าแก้ไขสถานการณ์ต่างๆกับประสบการณ์รู้เนี่ยก็เต็มถังพร้อมซักแบบเติมเต็มซึ่งก็ใช้เพราะจุดนี้มาสานต่อในรูปแบบของตัวเองและมีประเด็นดราม่าต่างๆภายในหนังช่วยจะพูดถึงการเปลี่ยนผ่านของอายุกับการปล่อยวางความต่างระหว่างวัยที่โก้ซึ่งผมไม่รู้สึกเลยนะว่าประเด็นไหนของหนังแนวมันถูกแยกเข้ามาทุกอย่างนั้นมีที่มาที่ไปที่เหมาะสมแล้วก็มีเหตุการณ์ก่อนหน้าสถานะของตัวละครที่สอดรับกันทั้งนั้นทำให้ผมชอบองค์ประกอบของความเป็นหนังทหารของมันมากๆและซึ่งใน Top Gun ภาคนี้เนี่ยเป็นการรวมตัวของคนที่ขับเครื่องบินเก่งที่สุดในประเทศอเมริกามาแล้ว 

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick
รีวิวหนัง Top Gun: Maverick

คนเราเนี่ยไม่เจอกันเขาก็ต้องทำเหมือนกันเป็นเรื่องปกติใช่ไหมครับซึ่งสิ่งเหล่านี้เนี่ยก็สร้างสีสันให้กับมันเรื่องมากเช่นเดียวกันแต่ว่าประเด็นด้านอารมณ์เดี๋ยวผมขอจบไว้ที่ตรงนี้แล้วกันนะครับมาต่อส่วนที่สำคัญที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คือฉากลบฉากเครื่องบินนั่นเองครับเรื่องนี้เนี่ยที่บอกว่าเป็นหนึ่งในหนังการต่อสู้ทางเครื่องบินที่เก่งที่สุดมันเจ๋งจริงๆหรือเปล่าผมต้องบอกแบบนี้ครับผมชอบเครื่องบินรบก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ว่าแค่ได้ดูหนังที่มีเครื่องบินรบเข้าชาร์จไว้ว่าจะพอใจง่ายๆแล้วก็ไม่ต้องมีที่มาว่าเครื่องบินมาได้ยังไงดูสมจริงไหมฉากแอ็คชั่นการลบบนด้านฟ้าเนี่ยดุเดือดมากหรือเปล่าหยุดการวางแผนดูดีหรือเปล่าทั้งหมดนี้แหละคือสิ่งที่ผมคาดหวังเอาไว้ใน top gun maverick ท็อปกัน มาเวอริค หนังเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ในหัวของผมได้ทั้งหมดครับมันเกินความคาดหวังของผมไปเยอะเลยครับที่ผมชื่นชอบมากในหนังเรื่องนี้ก็คือมันมีการบอกเล่าวิธีการต่อสู้แบบอันนั้นไม่ใช่หนังที่พระเอกจะมาคนเดียวขับไล่ยิงอีกฝั่งตกเป็นสิบๆแบบเท่ๆครับแต่เป็นหนังเครื่องบินรบที่มีรายละเอียดมีความสูงต่ำของเพดานแรงกดดันการเคลื่อนที่เป็นทีมสับสนใช่ไหมครับสิ่งเหล่านี้แต่ว่าหนังนั้นถ่ายทอดออกมาได้สมจริงแล้วก็เข้าใจง่ายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

รีวิวหนัง Top Gun: Maverick
รีวิวหนัง Top Gun: Maverick

ผมกล้ารับประกันว่าแม้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องเครื่องบินมาก่อนดูหนังเรื่องนี้จบก็เข้าใจว่าพวกเขานั้นกำลังทำอะไรอยู่แต่ยังไม่พอแล้วครับภารกิจโหดหินที่เกิดขึ้นภายในหนังเนี่ยจริงๆแล้วมันมีความซับซ้อนที่ค่อนข้างเยอะมากๆแต่ผู้กำกับเท่านั้นก็ยังสามารถสื่อสารออกมาได้ดีลำดับการวางข้อมูลได้อย่างไม่รีบร้อนค่อยๆป้อนคนดูไปเรื่อยๆครับว่าเรากำลังจะทำแบบนี้แบบนี้แบบนี้และระหว่างที่กำลังป้อนข้อมูลนั้นก็มีการเสริมใช้แอปต่างๆเข้ามาแทรกเพื่อให้มันไม่น่าเบื่อจนเกินไปผู้ชมเนี่ยก็จะค่อยๆรับรู้กันว่าทำไมงานนี้ถึงต้องการรวบรวมควบกะทิมาทั้งหมดและสิ่งที่พวกเรากำลังจะทำนั้นมันยากแค่ไหนทำไมพวกหนูก็ที่พวกนี้ยังมองว่ามันเป็นงานที่หัวหินตัวหนังแสดงผ่านภาพอย่างชัดเจนครับผมไม่ประทับใจกับการเล่าเรื่องที่ดูธรรมดาธรรมดาแบบนี้แต่เปลี่ยนร้านทุกอย่างออกมาได้ดีมากจริงๆ