วันศุกร์, 26 กรกฎาคม 2567

plan 75 วันเลือกตาย ภาพยนตร์จากเรื่องจริง รีวิวหนัง

09 ก.ย. 2022
430
plan 75 วันเลือกตาย ภาพยนตร์จากเรื่องจริง รีวิวหนัง

เรื่องย่อ ในอนาคตอันใกล้เมื่อประเทศญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบจึงทำให้ภาครัฐประกาศใช้นโยบาย plan 75 ซึ่งเปิดโอกาสให้ ผู้สูงอายุวัย 75 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์เลือกในการการุณยฆาตตัวเองได้โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการนั้นจะได้รับเงินสดจำนวน 100  เพื่อกอบโกยความสุขเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปในฐานะวีรบุรุษที่เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อชาตินะ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของมิกิหญิงชราวัย 78 ปีนี้ตกงานแล้วก็ไร้ที่อยู่ซึ่งกำลังครุ่นคิดและตัดสินใจครั้งสำคัญในบั้นปลายของชีวิตกับว่าเธอจะเข้าร่วมโครงการ แพลน 25 ของรัฐบาลหรือไม่ 

ภาพยนตร์เรื่อง plan 75  ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง

สุดสะเทือนขวัญในประเทศญี่ปุ่น โดยหากย้อนกลับไปในปี 2016 นะ มีชายคนนึงบุกสถานดูแลผู้สูงอายุพร้อมกับสังหารคนชราไปมากกว่า 19 คนรับนอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 40 รายโดยผู้ก่อเหตุกล่าวว่าเกือบทุกคนของเขาเป็นภาระของสังคมที่สมควรจะได้รับการกำจัดจริง และเขาก็เชื่อนะว่าการกระทำของเขาเป็นการขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้นกว่าเดิมซึ่งภาพยนตร์ก็หยิบเอาเหตุการณ์ดังกล่าวว่าใช้เป็นเชื้อไฟในการพัฒนาเรื่องราวทั้งหมด จนกลายมาเป็นภาพยนตร์สะท้อนปัญหาสังคมได้อย่างร้าวลึกและก็ยอดเยี่ยมจนกลายเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมในปีหน้าอีกด้วย แม้ประเทศไทยจะยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในแต่ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่ามันเป็นปัญหาที่ไม่ควรจะมองข้ามจริงๆ 

จินตนาการดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อประชากรวัยกลางคนเลือกที่จะไม่มีบุตร

จินตนาการดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อประชากรวัยกลางคนเลือกที่จะไม่มีบุตร

ขณะที่ผู้สูงอายุก็ทวีจำนวนมากขึ้นทุกปีปัญหาที่ตามมาก็คือการขาดแคลนแรงงานในการขับเคลื่อนสังคมในทุกภาคส่วนรับจนนำมาซึ่งวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้โครงการ แพลน 75 ของภาพยนตร์เนี่ยตั้งต้นจากจุดนี้ ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นแนวความคิดที่ใต้กรอบของสังคมและก็มีในแง่ของศีลธรรมเป็นอย่างมากแน่นอน ว่าการเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นสัจธรรมของชีวิต แต่การที่ผู้ชมได้เฝ้ามองสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญอย่างใกล้ชิดกับการถูกลดทอนคุณค่าทางสังคมลงตามอายุที่มากขึ้นอีกทั้งยังถูกโลกด้วยการยื่นในความคิดชาตินิยม ว่าการเสียชีวิตโดยสมัครใจของเหล่าผู้สูงอายุมากเป็นการเสียสละชีวิตเพื่อชาติ มันก็นับเป็นความรู้สึกจุกอยู่ในอกแล้วก็ยากจะอธิบายจริงๆ แต่ถึงกระนั้นการที่ภาพยนตร์เรื่องให้พื้นที่กับเหล่าตัวละครได้ใช้เจตจำนงเสรีของตนเอง พร้อมกับนำเสนอปัญหาของผู้สูงอายุอย่างรอบด้านแล้ว และยังสามารถหาเหตุผลรองรับให้กับทุกฝ่ายได้อย่างหนักแน่นมากพอ มันก็ทำให้การตราหน้าว่านโยบายดังกล่าวเนี่ยมันเป็นเรื่องที่ผิดและก็โหดร้ายมันจึงกลายเป็นความรู้สึกที่กะอักกะอ่วนแล้วก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากมากนัก 

จากคำถามที่ภาพยนตร์ plan 75 ยิงเข้าใส่ผู้ชม

จากคำถามที่ภาพยนตร์ plan 75 ยิงเข้าใส่ผู้ชม

ทำให้เรื่องราวทั้งหมดนั้นตกตะกอนเป็นกล้องความคิดแค่เราได้ต่อเติมมากมายในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะในแง่ของความเหลื่อมล้ำเนื่องจาก ภาพยนตร์ เรื่องจะเล่าเฉพาะตัวละครของผู้สูงอายุที่ไม่มีฐานะหลายลูกหลานดูแลและไม่มีสินทรัพย์ใดเป็นของตัวเองเลย ในขณะเดียวกันมันก็ชวนให้ตั้งคำถามถึงจุดเริ่มต้นของปัญหาด้วยสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและเศรษฐกิจที่รัดตัว มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชนชั้นกลางเนี่ยไม่ได้อยากมีลูกอีกต่อไปก็ได้นะ หรือหากจะมองถึงความโหดร้ายของระบอบทุนนิยมที่ต้องการแรงงานมนุษย์เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนธุรกิจทุกประเภทแต่เมื่อถึงจุดที่มนุษย์มีอายุมากขึ้นระบบทุนนิยมที่อบรับพวกเขาในวันที่พวกเขายังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่นั้นก็พร้อมจะผลักไสไล่ส่งผู้สูงอายุออกจากระบบในทันที  

ทำให้ผู้ชมตั้งคำถาม ว่ามนุษย์มีเสรีในการเลือกวันตายของตัวเองได้จริงหรือไม่

ทำให้ผู้ชมตั้งคำถาม ว่ามนุษย์มีเสรีในการเลือกวันตายของตัวเองได้จริงหรือไม่

อันล้ำสมัยภาพยนตร์เรื่อง วันเลือกตาย เหลือจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาอย่างเรียบง่ายและก็ไม่ฟูมฟายจนเกินไป โดยเป็นการพาผู้ชมไปสำรวจถึงความตายจากหลากหลายแง่มุมของตัวละครทั้งตัวละครหลัก ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ต้องดิ้นรนต่อสู้และ ก็ตั้งคำถามถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในการรับพนักงานของเรื่อง ที่บังเอิญต้องมาให้บริการกับคนรู้จักแรงงานต่างด้าวผู้รับหน้าที่จัดการทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต เพื่อรักษาชีวิตของลูกสาวตัวเองรวมถึงพนักงานให้คำปรึกษาของโครงการที่เกิดผูกพันกับผู้สูงอายุโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งทุกตัวละครนั้นล้วนถูกหรอกของหน้าที่การงานครอบครัวไว้กับการที่พวกเขาต้องฝืนความรู้สึกของตัวเองกับการโน้มน้าวใจของผู้สูงอายุในเรือจบชีวิตตัวเองกับโครงการ แต่ในขณะเดียวกันภาพยนตร์ก็มอบความเป็นมนุษย์ให้กับทุกตัวละครพร้อมกับใช้เรื่องราวของพวกเขาเป็นดั่งภาพสะท้อนถึงมุมต่างๆยอดเยี่ยมมากๆ  

สรุป ภาพยนตร์จะมีประเด็นอันหนักแน่น

สรุป ภาพยนตร์จะมีประเด็นอันหนักแน่น

แต่ก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกคนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับจังหวะการเล่าเรื่องที่น่าอิจฉาและการไม่ได้บอกเล่าบทสรุปของหลากหลายเหตุการณ์อย่างแน่ชัดตัวจริงพื้นที่ให้กับผู้ชมได้ตกผลึกทางความคิดและก็ตั้งคำถามต่อจากสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอเอาไว้ใน นอกจากนี้ยังมีการใช้สิ่งของร่วมหมายถึงการกระทำต่างๆของเหล่าตัวละครเพื่อบอกเล่าประเด็นในเชิงลึกมากขึ้นกว่าที่เห็นบนจอภาพยนตร์อีกด้วย 

Cr : Filmment Review
ดูรีวิวหนัง หรือ การวิเคราห์ภาพยนตร์เรื่อง Big mouth ต่อ